การแทง บอลสเต็ป หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “บอลชุด” ถือเป็นรูปแบบการเดิมพันยอดฮิตสำหรับคอบอลชาวไทยและทั่วโลก เพราะมีโอกาสเปลี่ยนเงินทุนเล็กน้อยให้กลายเป็นกำไรหลายเท่าตัว แต่ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยงที่ต้องอาศัยการวิเคราะห์และวางแผนให้รอบคอบ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักบอลสเต็ปอย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีการเล่น ข้อดี-ข้อเสีย ตลอดจนกลยุทธ์และเทคนิคในการบริหารเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการลงทุนด้านกีฬาฟุตบอล
แทง บอลสเต็ป (Mix Parlay/บอลชุด)
ความหมายและพื้นฐานของบอลสเต็ป
1.1 ความหมายของบอลสเต็ปหรือบอลชุด
“บอลสเต็ป” หรือ “บอลชุด” คือ การวางเดิมพันการแข่งขันฟุตบอลแบบหลายคู่ในบิลเดียวกัน (Mix Parlay) โดยเงื่อนไขสำคัญคือ ทุกคู่ที่เลือกต้องทายถูกทั้งหมด จึงจะได้รับเงินรางวัล หากทายผิดแม้แต่คู่เดียว บิลนั้นจะเป็นบิลเสียทันที อย่างไรก็ตาม ข้อดีคือ หากทายถูกครบทุกคู่ เงินที่ได้จะถูกคูณเพิ่มตามอัตราต่อรองของแต่ละคู่ ทำให้ผลตอบแทนสูงกว่าการเล่นบอลเต็งแบบคู่เดียว
1.2 ความแตกต่างระหว่างบอลเต็ง (Single Bet) กับบอลสเต็ป
- บอลเต็ง: วางเดิมพันใน 1 คู่ต่อบิล เหมาะสำหรับคนที่เน้นความแม่นยำ ไม่ต้องการความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนรับเป็นเท่าตัวของค่าน้ำที่เลือก
- บอลสเต็ป: วางเดิมพันหลายคู่ในบิลเดียว เน้นโอกาส “คูณ” กำไรแบบทวีคูณ แต่ความเสี่ยงสูงกว่า เพราะทายผิดคู่เดียวก็เสียทั้งบิล
บอลสเต็ปแต่ละประเภทมีอะไรบ้าง
โดยทั่วไปคำว่า “บอลสเต็ป” หรือ “บอลชุด” (Mix Parlay) จะหมายถึงการแทงบอลหลายคู่ในบิลเดียว แต่ที่ผู้เล่นอาจเรียกกันว่า “สเต็ป 2, สเต็ป 3, สเต็ป 4, สเต็ป 5” หรือมากกว่านั้น ส่วนใหญ่จะสื่อถึง จำนวนคู่ ที่เราเลือกใส่ในบิลเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีรูปแบบย่อย ๆ ที่แตกต่างกันตามลักษณะการเดิมพันและความหลากหลายของราคา อาจสรุปได้เป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้
1. บอลสเต็ปตามจำนวนคู่ในบิล
- สเต็ป 2 (Mix Parlay 2 Teams)
- เลือกแทงบอล 2 คู่ในบิลเดียว
- ความเสี่ยงถือว่าต่ำกว่าเมื่อเทียบกับสเต็ปที่มีคู่มากกว่า แต่ผลกำไรจะไม่สูงเท่าสเต็ป 3 หรือ 4
- เหมาะกับมือใหม่ หรือต้องการลดความเสี่ยงให้เหลือ “ทายถูกแค่ 2 คู่”
- สเต็ป 3 (Mix Parlay 3 Teams)
- เลือก 3 คู่ในบิลเดียว
- การจ่าย (คูณค่าน้ำทั้ง 3 คู่) จะค่อนข้างคุ้มค่า หากทายถูกทั้งหมด
- ความเสี่ยงอยู่ในระดับปานกลาง
- สเต็ป 4 และ 5 (Mix Parlay 4-5 Teams)
- เลือก 4 หรือ 5 คู่ในบิลเดียว
- ผลตอบแทนเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ หากค่าน้ำแต่ละคู่ไม่ต่ำเกินไป
- ความเสี่ยงจะสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว เพราะพลาดได้แค่ “0 คู่” (ผิดคู่เดียวบิลเสีย)
- สเต็ป 6 ขึ้นไป (Mix Parlay 6-10 Teams)
- บางเว็บอาจให้เล่นสูงสุดถึง 10-12 คู่ (ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของเจ้ามือ)
- หากทายถูกครบทุกคู่กำไรอาจพุ่งทะลุหลักหมื่น หลักแสน จากเงินทุนหลักสิบหลักร้อย
- แต่โอกาสทายถูกทั้งหมดก็ยากมาก ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ
ยิ่งจำนวนคู่มาก กำไรยิ่งสูง แต่ความเสี่ยงยิ่งมากเช่นกัน
2. บอลสเต็ปแบบคละรูปแบบราคา
นอกจากการแทงแบบแฮนดิแคป (HDP) ที่คุ้นเคยกันดีแล้ว ผู้เล่นสามารถเลือก “รูปแบบ” ราคาอื่น ๆ ในสเต็ปเดียวกันได้ เช่น
- 1×2 (มันนี่ไลน์): ทายเจ้าบ้านชนะ (1), เสมอ (×), ทีมเยือนชนะ (2)
- Over/Under (O/U): ทายสกอร์รวมสูงหรือต่ำกว่าที่กำหนด
- คู่-คี่ (Odd-Even): ทายสกอร์รวมว่าจะเป็นเลขคี่หรือเลขคู่
- Double Chance: ทายผล 2 หน้า (เช่น เจ้าบ้านชนะหรือเสมอ)
- อื่น ๆ: บางเจ้ามืออาจมีให้เลือกสเต็ปแบบครึ่งแรก/ครึ่งหลัง เป็นต้น
ประโยชน์:
- เพิ่มความหลากหลายและลดความยาก เพราะบางคู่เราอาจมั่นใจเรื่อง “สกอร์สูง” มากกว่าผลแพ้ชนะ
- แต่ละรูปแบบราคา อาจมีค่าน้ำต่างกัน ควรศึกษาให้ดี
3. บอลสเต็ปแบบไขว้ (Mix & Match)
สเต็ปไขว้ เป็นเทคนิคการกระจายความเสี่ยง โดยผู้เล่นจะเลือกหลายทีม (เช่น 4-5 ทีม) แล้วจับไขว้สเต็ปย่อยออกเป็นหลายบิลย่อย เช่น
- สมมุติว่าเลือกทีม A, B, C, D
- จับ สเต็ป 3 ไขว้กัน เช่น
- บิล 1: A + B + C
- บิล 2: A + B + D
- บิล 3: A + C + D
- บิล 4: B + C + D
วิธีนี้หากทีมใดทีมหนึ่งแพ้ เราอาจยังมีบิลอื่นที่เข้าทั้งหมด ช่วยลดโอกาสสูญเงินทั้งก้อน แต่ก็ต้องใช้ทุนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในการแบ่งหลายบิล
4. บอลสเต็ประบบ (Full Cover / System Bets)
ในเว็บไซต์หรือเจ้ามือบางแห่ง (โดยเฉพาะในต่างประเทศ) อาจมีตัวเลือก “System Bets” ซึ่งเป็นการจัดชุดสเต็ปแบบอัตโนมัติโดยระบบ เช่น
- Trixie, Patent, Yankee, Canadian, Heinz เป็นต้น
- แต่ละชื่อบ่งบอกจำนวนคู่และรูปแบบการไขว้โดยอัตโนมัติ เช่น Trixie คือการเลือก 3 ทีม แล้วระบบจะจัดชุดสเต็ป 2 และสเต็ป 3 ให้เราทันที รวมทั้งหมด 4 บิล
- ข้อดีคือไม่ต้องมานั่งจับไขว้เอง ระบบทำให้ แต่ต้องใช้ทุนมากกว่าการเล่นสเต็ปเดี่ยว ๆ เพราะระบบออกบิลให้หลายใบ
5. บอลสเต็ปมิกซ์พิเศษ (Special Mix Parlay)
บางเว็บไซต์อาจมี “มิกซ์พิเศษ” ที่รวมกีฬาต่างชนิดกันก็ได้ ไม่ใช่แค่ฟุตบอลอย่างเดียว เช่น
- เลือกเดิมพันฟุตบอล + บาสเก็ตบอล + เทนนิส ในบิลชุดเดียวกัน
- เงื่อนไขเหมือนเดิม คือ ต้องทายถูกทุกรายการ จึงจะได้เงินรางวัล แต่ถ้าพลาดแม้แต่รายการเดียว บิลเสียทั้งหมด