รุ่นมวยน้ำหนัก ของไทย นักมวยไทยใครอยู่ในรุ่นไหนบ้าง?

รุ่นมวยน้ำหนัก เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการแข่งขันมวยไทย เนื่องจากการจัดแบ่งรุ่นน้ำหนักทำให้การแข่งขันเป็นไปอย่างยุติธรรมและท้าทาย ซึ่งนักมวยในแต่ละรุ่นจะต้องต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่มีน้ำหนักใกล้เคียงกัน เพื่อให้การแข่งขันมีความสมดุลและสนุกสนาน ในประเทศไทยเองมีการแบ่งรุ่นมวยออกเป็นหลายรุ่นที่นักมวยไทยต้องเข้าแข่งขันตามน้ำหนักตัวของตนเอง บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับรุ่นมวยนประเทศไทย และดูว่านักมวยไทยคนใดอยู่ในรุ่นไหนบ้าง

รุ่นมวยน้ำหนัก ของไทยมีนักมวยไทยใครอยู่ในรุ่นไหนบ้าง?

1. รุ่นฟลายเวท (Flyweight)

รุ่นฟลายเวทเป็นรุ่นมวยที่มีน้ำหนักไม่เกิน 52 กิโลกรัม หรือ 114 ปอนด์ นักมวยในรุ่นนี้ส่วนใหญ่จะมีทักษะการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและคล่องแคล่ว เพราะพวกเขาต้องพึ่งพาความเร็วในการโจมตีและการหลบหลีกมากกว่าการใช้กำลัง เพื่อให้สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ นักมวยชื่อดังในรุ่นฟลายเวท เช่น ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ซึ่งเคยเป็นแชมป์โลกมวยสากลในรุ่นนี้และได้รับความนิยมอย่างมาก

2. รุ่นแบนตัมเวท (Bantamweight)

รุ่นแบนตัมเวทมีน้ำหนักไม่เกิน 53.5 กิโลกรัม หรือ 118 ปอนด์ นักมวยในรุ่นนี้ต้องมีความแข็งแกร่งและทักษะที่สมบูรณ์แบบ เนื่องจากการแข่งขันในรุ่นนี้เต็มไปด้วยความดุเดือด นักมวยที่เป็นที่รู้จักในรุ่นแบนตัมเวทอย่าง ก้องศักดิ์ ปั้นกระดาน ซึ่งมีชื่อเสียงจากการชนะในหลายการแข่งขันและเป็นหนึ่งในนักมวยที่เคยสร้างชื่อเสียงในเวทีราชดำเนิน

3. รุ่นเฟเธอร์เวท (Featherweight)

รุ่นเฟเธอร์เวทมีน้ำหนักไม่เกิน 57 กิโลกรัม หรือ 126 ปอนด์ นักมวยในรุ่นนี้มักจะมีทักษะการชกที่หลากหลาย ทั้งการใช้อาวุธมวยไทยอย่างเตะขา ต่อยหมัด และการป้องกันตัวที่ดี นักมวยชื่อดังในรุ่นนี้ เช่น สมรักษ์ คำสิงห์ ซึ่งเป็นนักมวยที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากแฟนมวยไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ สมรักษ์เคยคว้าแชมป์หลายรายการในรุ่นนี้และยังเป็นนักมวยไทยที่ได้รับการยกย่องเป็นอย่างมาก

4. รุ่นไลท์เวท (Lightweight)

รุ่นไลท์เวทมีน้ำหนักไม่เกิน 61.2 กิโลกรัม หรือ 135 ปอนด์ การแข่งขันในรุ่นนี้เต็มไปด้วยการต่อสู้ที่ท้าทาย โดยนักมวยในรุ่นนี้ต้องมีความแข็งแกร่งในการรับมือกับคู่ต่อสู้ที่มีทักษะหลากหลาย นักมวยในรุ่นไลท์เวทมักจะมีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและมีเทคนิคที่ดีในการทำลายคู่ต่อสู้ โดยเฉพาะการใช้หมัดและเทคนิคต่างๆ ให้เป็นประโยชน์ รุ่นนี้มีนักมวยชื่อดังหลายคนที่มีผลงานที่โดดเด่นในเวทีมวยไทย

5. รุ่นเวลเตอร์เวท (Welterweight)

รุ่นเวลเตอร์เวทมีน้ำหนักไม่เกิน 66.7 กิโลกรัม หรือ 147 ปอนด์ นักมวยในรุ่นนี้มักจะมีทั้งความแข็งแกร่งและความรวดเร็ว ทักษะการต่อสู้ของพวกเขามักจะเน้นที่การใช้การโจมตีที่หนักหน่วง รวมถึงการรับมือกับการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักมวยที่มีชื่อเสียงในรุ่นเวลเตอร์เวท เช่น หาญ ไมตรีคุปต์ ซึ่งเคยทำผลงานยอดเยี่ยมในการแข่งขันและเป็นนักมวยที่ได้รับการยอมรับในวงการมวยไทย

6. รุ่นมิดเดิลเวท (Middleweight)

รุ่นมิดเดิลเวทมีน้ำหนักไม่เกิน 75 กิโลกรัม หรือ 165 ปอนด์ การแข่งขันในรุ่นนี้เต็มไปด้วยการต่อสู้ที่หนักหน่วงและดุดัน นักมวยในรุ่นนี้ต้องมีความแข็งแกร่งในการรับมือกับคู่ต่อสู้ที่มีร่างกายใหญ่กว่า ในขณะเดียวกันต้องมีทักษะที่ดีในการใช้หมัดและขาในการโจมตีและป้องกันตัว

7. รุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวท (Super Middleweight)

รุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวทมีน้ำหนักไม่เกิน 76.2 กิโลกรัม หรือ 168 ปอนด์ เป็นรุ่นที่มีนักมวยที่มีทั้งความแข็งแกร่งและทักษะการชกที่ดี นักมวยในรุ่นนี้ต้องมีความทนทานและสามารถใช้เทคนิคในการโจมตีได้ดี ซึ่งการแข่งขันในรุ่นนี้มักจะเต็มไปด้วยความดุเดือด

8. รุ่นไฮเวท (Heavyweight)

รุ่นไฮเวทคือรุ่นที่มีน้ำหนักมากที่สุด ซึ่งมักจะมีน้ำหนักมากกว่า 91 กิโลกรัม หรือ 200 ปอนด์ นักมวยในรุ่นนี้ต้องมีความแข็งแกร่งและพละกำลังมากกว่ารุ่นอื่นๆ และมักจะมีการต่อสู้ที่หนักหน่วงที่สุด การแข่งขันในรุ่นนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและยากที่จะคาดเดาผลการแข่งขัน

สรุป

รุ่นมวยน้ำหนัก เป็นสิ่งที่สำคัญในการแข่งขันมวยไทย นักมวยที่เข้าแข่งขันในแต่ละรุ่นจะต้องมีน้ำหนักที่ใกล้เคียงกัน เพื่อให้การแข่งขันเป็นไปอย่างยุติธรรมและสนุกสนาน โดยนักมวยในแต่ละรุ่นจะมีทักษะและสไตล์การชกที่แตกต่างกันไป ซึ่งทำให้การแข่งขันในแต่ละรุ่นมีความท้าทายและน่าติดตาม นักมวยที่มีชื่อเสียงในรุ่นน้ำหนักต่างๆ ล้วนแต่สร้างชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในวงการมวยไทย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

 

Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *